สวัสดีครับทุกคน วันนี้ก็เป็นวันอาทิตย์ที่ตื่นสาย และกำลังรอผ้าที่ซักอยู่ การบ้านก็ยังไม่ได้ทำ โปสการ์ดที่จะส่งให้ที่บ้านก็ยังไม่ได้เขียน บทความนี้ก็ตั้งใจที่จะมาเขียนเล่าเรื่องราวชีวิตที่มาเรียนปริญญาโทที่ Scripps Institution of Oceanography, UC San Diego ในหลักสูตร Climate Science and Policy ครับ
ทำไมถึงเลือกเรียนหลักสูตรนี้?
ทุกคนมักจะตกใจ เวลาบอกว่าจะมาเรียนป.โทด้านนี้ ซึ่งก็ไม่เแปลกใจ555 เพราะมันช่างตรงข้ามกับแบคกราวของผมเหลือเกิน จริงๆแล้วแบคกราวของผมมาจากการเป็นโปรแกรมเมอร์มาก่อนครับ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ผมชอบมานานแล้วตั้งแต่เด็กๆ ทีนี้พอเรียนมหาลัยก็ได้ไปค่ายไปทำชมรมอนุรักษ์ฯ ก็เริ่มรู้สึกสนใจเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมขึ้นมาบ้าง พอเรียนจบก็โชคดีได้งานที่ญี่ปุ่นกับบริษัทพยากรณ์อากาศเจ้าหนึ่ง ทำอยู่ที่นั้นเกือบๆสองปี มันก็เปิดโลกเรามากเลยและ ได้เรียนรู้ ลองทำอะไรหลายๆอย่างที่ไม่เคยทำ และสิ่งนึงที่ผมคิดว่าผมเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนก็คือว่าเรามองโลกกว้างขึ้น เราไม่ได้มองแค่ประเทศไทยแล้ว แต่เราสนใจว่าในระดับโลกหรือประเทศอื่นๆว่ามันเป็นยังไงบ้าง
การทำงานที่บริษัทพยากรณ์อากาศ สิ่งหนึ่งที่ทำให้เราอินมากๆก็คือสภาพอากาศ และการพยากรณ์อากาศ ซึ่งเราก็ได้เห็นสภาพอากาศที่แปรปรวนแบบทำลายสถิติอยู่บ่อยๆ และมันก็ไม่ใช่เรื่องปกติ นั้นก็เป็นจุดนึงที่ทำให้เราสนใจเลือกที่จะเรียนมาในด้านนี้ แต่ถ้าถามว่าจริงจังแค่ไหน ก็จะตอบว่าถ้าไม่ติดที่นี้ ก็คงทำงานไปอีกสักปีสองปี และก็ไปเรียนต่อป.โทด้าน Data science ซึ่งตรงกับงานที่ทำอยู่มากกว่า ก็คงเป็นดวงนิดนึงและเนอะที่ทำให้ได้มาเรียนที่นี้
ความตั้งใจของผมก็คือว่าอยากจะทำงานในสายเทคโนโลยีที่สามารถช่วยให้สิ่งแวดล้อมมันดีขึ้น ถ้าคนที่ทำงานอยู่ในสายซอฟแวร์ก็คงจะรู้ว่า งานมันไม่ได้หายากเลย และบ่อยครั้งคนก็มักจะเล่นตัวกันด้วยซ้ำเพื่อเรียกเงินเดือนสูงๆ แต่พอทำๆไปสักพักก็มักจะเบื่อ เพราะงานมันไม่ท้าทาย ไม่ได้แก้ปัญหาที่มีอิมแพคมากพอ ผมเองก็เป็นแบบนั้น หาปัญหาที่อยากจะแก้ไม่เจอ แต่พอลองคิดดูดีๆแล้ว โลกเราเนี่ยและที่มีปัญหา ก็เลยอยากจะลองดูซักตั้ง ว่าจะทำอะไรได้ไหม
เรียนอะไรบ้าง?
ตอนนี้ก็เรียนมาได้สองอาทิตย์และครับ ถือว่าสนุกเลยและ แต่ก็ปวดหัวบ้างเพราะคิดไม่ออกว่าเราจะทำอะไรได้ ตอนนี้ก็ยังอยู่ในช่วงซัมเมอซึ่งคลาสก็จะคล้ายๆกับมัธยมเลย เรียนเช้าถึงเย็นทุกวัน ช่วงเช้าก็จะเป็นเลกเชอร์เกี่ยวกับพื้นฐานและกลไกของ Climate change ส่วนช่วงบ่ายก็จะเป็นนักวิจัยหรืออาจารย์มาพูดให้ฟังเกี่ยวกับ research ที่เขาทำ ซึ่งเจ๋งมากๆได้เจอคนดังๆในวงการเพียบเลย
ตัวหลักสูตรของโปรแกรมนี้เองก็ตามชื่อและครับ ก็คือ Climate Science และ Policy ซึ่งก็จะเรียนว่า Climate Change เกิดจากอะไร สภาพอากาศมีกลไกการทำงานอย่างไร ส่วน Policy ก็คือเรียนว่าเราจะสื่อสารให้คนทั่วไปเข้าใจได้อย่างไร และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับสังคมและนโยบายที่จะสามารถแก้ปัญหา Climate change ได้อย่างไร
เดี่ยวลองลิสคีย์เวิดให้ดูนะครับนะครับว่าเรียนอะไรมาบ้างสองอาทิตย์ จะได้เป็นการทวนไปในตัวด้วย555
Lecture:
Textbook: Meteorology Today C. Ahrens, Climate and the Oceans Geoffrey K. Vallis
- Historical atmospheric composition, layers, heat transferl, Climate variability
- Shortwave/longwave radiation absorption, Albedo, Earth’s energy budget
- Milankovitch cycle, Atmospheric humidity, RH, Atmospheric stability, Adiabatic process
- Stability and vertical profile, Marine cloud, Force convection
- Adiabatic cooling in a rising parcel of air, Unstable condition, Latent heat, Cap, Thunderstorm
- Air Pressure and Winds, air pressure change vertical, isobars, geopotential height, PGF, CoF Geostropic wind, Centrifugal force
- CAPE, LCL, Tropical/dessert climate, cap break
- Precipitation, Curvature effect, Collision-coalescence, Bergeron process
- ENSO, Kelvin waves, The walker circulation
- Thermally direct, Vertical distribution of pressure, Monsoon, drought, downslope wind, surface friction
Speaker:
- Climate disruption, Projection, Effect of Climate change
- Global surface temperature, EL Niño, La Niña, Ocean heat distribution
- Annual average temperature, Glacier, sea ice, Change in arctic sea ice, Global Climate Models, Ice albedo,
- Alumni capstone project: Climate change and health (West Nile Virus), Carbon offset study
- Field trip: National weather service
- Polar atmospheric, Arctic warming amplification, Summer arctic ocean energy budget, Katabatic wind
- Wildfires and Health, PM2.5
- Climate modeling: statistical, dynamical, RCPs, Projection, ensemble model
- Paleoclimatology, proxy records of climate, factors of earth climate
- Ice cores, Aerosal, Earth energy budget, Natual CO2 vs. fossil fuel CO2
- Electrification of transportation in UCSD
- Model simulation, Atmospheric composition, Radiation, Coriolis effect
ชีวิตเป็นยังไง?
สิ่งแรกที่มาถึง San Diego และนึกถึงคือ นี่มันพัทยาชัดๆ ทั้งสไตล์บ้าน โทนสี และสระน้ำที่มีอยู่ทุกบ้าน เรียกได้ว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวสำหรับคนที่ชอบมาอยู่บ้านพักตากอากาศก็ว่าได้ อากาศที่นี้คือดีตลอดปี ไม่ร้อนไม่หนาว แต่แสง UV คือ 10/10(แรงกว่าไทย) ที่เรียนก็อยู่ติดริมทะเล วิวดีมาก ชายหาดมีคนเล่นเซิฟตลอดทั้งวัน ค่าครองชีพที่นี่ก็ไม่แพงมากนักถ้าเทียบกับเมืองอื่น และบ้านที่ผมอยู่เองก็อยู่ใกล้ๆกับซุปเปอร์และมหาลัยแบบเดินได้เลย จะซื้ออะไรก็สบายมาก ส่วนใหญ่ก็สั่ง Amazon เอา(รอมานานมากๆที่จะได้ใช้ full feature 5555)
การเดินทางก็โอเค มีรถบัส นั่งไปไหนมาไหนได้ แต่ถ้าจะไปดาวทาวน์ทีก็ต้องใช้ Uber/Lyft เทียบกับญี่ปุ่นแล้วก็ญี่ปุ่นสบายกว่าเยอะ555 เพราะมีรถไฟไปได้ทุกที่ จริงๆที่นี่เขาก็สร้างรถไฟฟ้าอยู่เหมือนกัน ทรงคล้ายๆกับไทยเลยแบบเป็นเสาขึ้นไปบนดิน แต่ก็ไม่รู้จะเสร็จทันได้ใช้ไหม อีกอย่างนึงที่เห็นคนใช้กันเยอะก็คือ Scooter ไฟฟ้า แต่นี่ไปลองมาแล้วแล้วก็รู้สึกว่าเปลืองตัง เพราะมันต้องเติมตังขั้นต่ำทีละ $20 แหนะ
เรื่องเที่ยวตอนนี้ก็ยังไม่ค่อยได้เที่ยวเท่าไร ไปมาแค่ที่ใกล้ๆ อยากจะไปลองเดินเขาที่นี่ดูบ้าง ลองเสิชดูแล้วมีหลายที่ที่น่าไปเหมือนกัน ถ้าออกไปจากโซนริมทะเลนิดนึงก็จะเป็นทะเลทรายแล้ว แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะไปยังไงและเดินยากขนาดไหน
โดยรวมแล้วชีวิตก็ค่อนข้างสบายและครับ จนบางทีก็รู้สึกว่าขี้เกียจเกินไปหน่อย อยากขยันและแอคทีฟให้มากกว่านี้ อุส่าเสียตังมาเรียนแล้วทั้งที ก็อยากทำอะไรที่จะได้ไม่ต้องมาเสียดายทีหลังและเนอะ
สรุปว่าเขียนบทความจนเสร็จก็ยังซักผ้าไม่เสร็จนะฮะ เพราะลืมใส่น้ำยาซักผ้า 😱 ก็ขอบคุณทุกคนมากครับสำหรับการติดตาม ใครที่มีคำถามสงสัย หรืออยากชวนคุยเกี่ยวกับ Climate change ก็ทักมาได้เลยนะฮะ อยากคุยมาก555 ช่วงนี้ก็กำลังคิดอยู่ว่าจะทำโปรเจคจบอะไรดี ถ้ามีเวลาไว้จะมาอัพเดทชีวิตให้ฟังกันอีกนะครับ สำหรับวันนี้ก็ลาไปก่อน สวัสดีครับ